

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คืออะไร? เตือนภัยกลโกงใหม่ พร้อมวิธีป้องกัน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โทรศัพท์หรือข้อความหลอกลวงเพื่อให้เหยื่อโอนเงิน ปัจจุบันมีกลโกงหลายรูปแบบที่ควรรู้จักวิธีป้องกัน พร้อมเตือนภัยให้คนใกล้ตัวระวัง
ภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้จำกัดแค่บุคคลทั่วไปอีกต่อไป แต่ปัจจุบันกำลังพุ่งเป้ามาที่กลุ่มผู้ประกอบการ และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องใช้โทรศัพท์ทำธุรกรรมและใช้แอปฯ รับส่งสินค้าเป็นประจำ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงได้ง่าย การโดนโกงออนไลน์ จึงกลายเป็นประเด็นที่คนทำธุรกิจต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ เพราะในแต่ละวันเจ้าของธุรกิจต้องรับสายจากลูกค้าและพาร์ตเนอร์อยู่เสมอ จึงอาจแยกแยะได้ยากว่าสายไหนคือมิจฉาชีพ บทความนี้จะพามารู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรู้จักวิธีป้องกันคอลเซ็นเตอร์ที่แฝงตัวเข้ามาในทุกช่องทาง
สารบัญบทความ
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คืออะไร? มีลักษณะอย่างไรบ้าง
- 10 กลลวง รู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- รู้ทันกลโกง ป้องกันภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- หากโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ต้องทำอย่างไร
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รู้เท่าทัน ป้องกันก่อนตกเป็นเหยื่อ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คืออะไร? มีลักษณะอย่างไรบ้าง
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คืออะไร? แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ในการหลอกลวงผู้อื่น โดยเป็นหนึ่งในภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ควรระมัดระวัง เพราะจะแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ พนักงานธนาคาร บริษัทขนส่ง หรือคนรู้จัก เพื่อสร้างสถานการณ์ฉุกเฉินที่บีบคั้นให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินให้ ซึ่งกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเน้นความเร่งด่วน เช่น แจ้งว่ามีพัสดุผิดกฎหมาย หรือบัญชีถูกอายัดในคดีฟอกเงิน แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าสู่ระบบเพื่อทำการตรวจสอบและพิสูจน์ความบริสุทธิ์
10 กลลวง รู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนากลโกงแนบเนียนขึ้นมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและขนส่งอยู่เสมอ มาดูกลโกง 10 รูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พบบ่อยและควรระวัง ดังนี้
1. หลอกว่าติดต่อจากบริษัทขนส่ง/ตำรวจ
คอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพจะโทรแจ้งว่าได้รับพัสดุผิดกฎหมาย หรือพัสดุตีกลับพร้อมข้อหา โดยอ้างว่าเป็นตำรวจผู้ติดตามเรื่องนี้ เพื่อกดดันให้โอนเงินผ่านระบบชำระเงินออนไลน์เพื่อปลดล็อกพัสดุหรือจ่ายค่าปรับ
2. หลอกว่าติดต่อจากธนาคาร
แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วแจ้งเหตุฉุกเฉิน เช่น โทรมาแจ้งว่ามีคนพยายามกดเงินจากต่างประเทศ หรือบัญชีของคุณกำลังจะถูกระงับภายใน 24 ชั่วโมง แล้วหลอกขอข้อมูลส่วนตัวเพื่อยับยั้ง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีควรระวังเป็นพิเศษ
3. หลอกว่าโอนเงินผิดบัญชี ขอให้โอนกลับ
มิจฉาชีพ Call Center จะเริ่มจากการส่งสลิปโอนเงินปลอมมาให้ แล้วอ้างว่าโอนผิดบัญชี ขอให้ช่วยโอนเงินคืนทันที ผู้ที่ไม่ได้ตรวจสอบยอดเงินเข้าในบัญชีให้ดี ก็อาจหลงเชื่อและโอนเงินคืน
4. หลอกให้ทำงานออนไลน์
อ้างว่าเป็นงานพาร์ตไทม์จากบริษัทใหญ่ แค่กดไลก์ กดแชร์ หรือรีวิวสินค้า แล้วได้เงิน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องลงทุนก่อนเพื่อเปิดบัญชี หรืออัปเกรดระบบ สุดท้ายพอจ่ายเงินไปแล้ว ก็จะปิดกลุ่มแชตหนี ติดต่อไม่ได้
5. หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร
โทรมาขู่ว่าธุรกิจของคุณมีปัญหาด้านภาษี เช่น ค้างชำระ, ยื่นภาษีไม่ถูกต้อง หรือเลี่ยงภาษี หากไม่โอนเงิน จะถูกอายัดบัญชีหรือโดนหมายจับ
6. หลอกว่าเป็นผู้โชคดี จากกิจกรรมต่าง ๆ
แก๊งค์ Call Center แจ้งว่าคุณเป็นผู้โชคดีถูกรางวัลจากกิจกรรมที่เคยร่วมไว้ในโซเชียล แต่ต้องโอนเงินค่าธรรมเนียม หรือค่าภาษีมาให้ก่อนจึงจะส่งของรางวัลมาให้ แต่จริง ๆ แล้วไม่มีรางวัล และหากโอนเงินไปแล้ว ก็จะติดต่อฝ่ายนั้นไม่ได้อีก
7. หลอกให้ร่วมลงทุน
มิจฉาชีพจะชักชวนให้ร่วมลงทุนกับธุรกิจปลอม ๆ เช่น ลงทุนหุ้นดิจิทัล, แชร์รายวัน และปั๊มกำไรออนไลน์ โดยช่วงแรกจะจ่ายผลตอบแทนจริงเพื่อให้เหยื่อเชื่อใจ จากนั้นเมื่อเหยื่อลงทุนเพิ่ม ก็จะปิดระบบหนีไป
8. หลอกว่าเป็นพนักงานเครือข่ายโทรศัพท์
Call Center มิจฉาชีพโทรแจ้งว่าซิมกำลังจะถูกระงับการใช้งาน เนื่องจากไม่ได้อัปเดตข้อมูล ต้องยืนยันด้วยรหัส OTP เมื่อได้รหัสนั้นมิจฉาชีพจะนำไปแฮกบัญชีหรือแอปพลิเคชันทางการเงิน
9. หลอกว่ามีรูปหรือวิดีโอหลุด
อีกหนึ่งกลโกงที่มิจฉาชีพใช้คือการอ้างว่ามีภาพ หรือวิดีโอส่วนตัวของคุณ แล้วข่มขู่ว่าจะนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะ หากไม่ยอมโอนเงินให้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจแนบไฟล์ที่ดูเหมือนจะเป็นหลักฐาน หรือสร้างภาพตัดต่อปลอมขึ้นมาเพื่อเพิ่มความกดดันทำให้เหยื่อตกใจกลัวและรีบโอนเงินให้
10. หลอกว่ากำลังจะตัดไฟหรือน้ำประปา
อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหรือการประปา โทรมาเเจ้งว่าคุณมียอดค้างชำระและจะถูกตัดการให้บริการภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าไม่รีบจ่ายเงินผ่าน QR Code หรือบัญชีที่ส่งให้ทันที
รู้ทันกลโกง ป้องกันภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ในยุคดิจิทัลที่ภัยไซเบอร์กลายเป็นภัยคุกคามใกล้ตัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่สร้างความเสียหายมหาศาล จึงต้องมีวิธีป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ปลอดภัยจากเล่ห์กลของมิจฉาชีพเหล่านี้
- ตรวจสอบข้อมูลบริษัทให้ละเอียด ก่อนตัดสินใจสมัครงาน ควรตรวจสอบชื่อบริษัท ที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ และชื่อผู้ติดต่อในแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- ระวังประกาศรับสมัครงานที่น่าสงสัย หากพบข้อความหรือโพสต์ที่ระบุว่ามีรายได้สูงเกินจริง หรือมีเงื่อนไขคลุมเครือ ควรพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะกรณีที่ขอให้โอนเงิน
- ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะเลขที่บัญชีธนาคาร เลขบัตรประชาชน สำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายหน้าบัตร รหัสผ่าน รหัส OTP หรือข้อมูลหน้าบัตรเครดิต
- ปรึกษาคนใกล้ชิด หากไม่แน่ใจ ก่อนตัดสินใจโอนเงิน ควรปรึกษาพ่อแม่ ญาติ หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ เพื่อช่วยกันตรวจสอบและหาทางแก้ไข
- ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเจอพฤติกรรมเข้าข่ายหรือน่าสงสัย ควรรีบติดต่อไปที่เบอร์กลางของหน่วยงานนั้นโดยตรงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
หากโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ต้องทำอย่างไร
หากตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สิ่งสำคัญคือการตั้งสติและรีบดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ให้เร็วที่สุด แนวทางปฏิบัติเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก มีดังนี้
1. ติดต่อธนาคารทันที หากมีการโอนเงิน ให้รีบติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีที่เราโอนเงินไป เพื่อขอ “อายัดบัญชี” และแจ้งเหตุว่าเป็นกรณีฉ้อโกง พร้อมขอเอกสารยืนยันการดำเนินการ
2. แจ้งความ ไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้านเพื่อแจ้งความ หรือแจ้งผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือโทร 1441 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.)
3. แจ้งอายัดบัญชีคนร้ายผ่านระบบบัญชีม้า เข้าเว็บไซต์ www.anti-scam.asia เพื่อรายงานเลขบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินการได้เร็วขึ้น
4. เปลี่ยนรหัสผ่าน หากเคยให้รหัส OTP หรือรหัสผ่านบัญชี ให้รีบเปลี่ยนรหัสทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องทันที เช่น บัญชีธนาคาร บัญชีโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
5. แจ้งคนใกล้ตัวเพื่อเตือนภัย แชร์ประสบการณ์หรือโพสต์เตือนภัยเพื่อให้คนใกล้ชิด ลูกค้าและครอบครัว ระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกัน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รู้เท่าทัน ป้องกันได้ทั้งลูกค้าและธุรกิจ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงพัฒนากลลวงใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยไม่ได้มุ่งเป้าแค่บุคคลทั่วไป แต่รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าที่มีธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ การรู้เท่าทันกลโกงและมีมาตรการป้องกันที่ดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นของทุกธุรกิจในยุคนี้
หนึ่งในช่องโหว่ที่มิจฉาชีพมักใช้คือการหลอกลวงผ่านการเก็บเงินปลายทาง (COD) ทำให้ลูกค้าจำนวนมากหันมาเลือกชำระเงินออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โทรหลอกให้โอนเงินค่าสินค้า ซึ่ง KGP เข้าใจถึงความกังวลนี้และพร้อมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ ด้วยบริการรับชำระเงินออนไลน์ที่หลากหลายและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น Meta Pay, QR Payment, Mobile Banking, บัตรเครดิต/เดบิต, Payment Links+, E-Wallet (TrueMoney Wallet) และบริการหักบัญชีอัตโนมัติ (ODD) ที่ช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้อย่างสะดวกและมั่นใจ พร้อมช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ หากลูกค้า KGP ประสบปัญหาหรือต้องการแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ สามารถติดต่อสอบถามหรือแจ้งเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 2 ช่องทางหลัก ดังนี้
- อีเมล: info.kgp@kasikornglobalpayment.com
- โทรศัพท์: 02-008-8820 กด 1
KGP, Payment. Make It Smooth.
LinkedIn : Kasikorn Global Payment
Reference
- การหลอกลวงให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์: รู้ทันกลโกงก่อนสายเกินไป. (มกราคม 13, 2568).กรมประชาสัมพันธ์. https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/354795
Related News/Articles
Follow Us