

Bundling คืออะไร? กลยุทธ์รวมสินค้าและบริการเพื่อเพิ่มยอดขาย
Bundling คือ กลยุทธ์การขายสินค้าแบบแพ็กเกจ ช่วยเพิ่มยอดขายหรือจัดการกับคลังสินค้า ซึ่งตอบโจทย์ได้กับธุรกิจที่หลากหลาย หากกำหนด Bundle Pricing อย่างถูกต้อง
Bundling คือ การจัดชุดสินค้าและบริการ หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ธุรกิจสามารถนำมาใช้ได้ ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังและได้รับความนิยมเสมอมา ด้วยจุดเด่นอยู่ที่การรวมสินค้าหลายชิ้นเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสร้างความคุ้มค่า ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักให้มากขึ้น ว่าการทำสินค้า Bundle คืออะไร และการตั้งราคาแบบ Bundle Pricing จำเป็นจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มศักยภาพ
สารบัญบทความ
- Bundling คืออะไร? เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง?
- Bundling และ Unbundling ต่างกันอย่างไร
- ข้อดี-ข้อจำกัดของ Bundling และ Unbundling
- Bundling มีกี่ประเภท
- ตัวอย่างของการทำ Bundling
- Bundling คือ กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายที่ธุรกิจควรรู้และเลือกใช้
Bundling คืออะไร? เปลี่ยนการซื้อย่อยให้เป็นการซื้อใหญ่
Bundling คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ธุรกิจจะรวมสินค้าหรือบริการหลายรายการเข้าไว้ด้วยกัน แล้วนำเสนอขายในรูปแบบของแพ็กเกจ ซึ่งจุดเด่นของกลยุทธ์นี้คือการตั้งราคาแพ็กเกจให้ต่ำกว่าการซื้อแต่ละรายการแยกกัน เพื่อกระตุ้นยอดขายและความต้องการซื้อของลูกค้า
สินค้าหรือบริการที่นำมารวมกันในแพ็กเกจอาจมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อเพิ่มคุณค่าและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น หรืออาจเป็นสินค้าที่หลากหลายแต่ยังคงตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพื่อมอบความสะดวกสบายและคุ้มค่าในการซื้อครั้งเดียว
Bundling และ Unbundling ต่างกันอย่างไร
Bundling คือ กลยุทธ์การตลาดที่ธุรกิจรวบรวมสินค้าและบริการหลายรายการรวมกันเป็นแพ็กเกจเดียว เพื่อเน้นการทำกำไรด้วยการขายสินค้าในจำนวนมาก แต่ในทางกลับกัน Unbundling จะเป็นการแยกสินค้าหรือบริการที่เคยรวมกันเป็นแพ็กเกจ ออกมาขายแยกเป็นชิ้นย่อย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้า หรือเลือกใช้บริการเฉพาะสิ่งที่ต้องการได้
ข้อดี-ข้อจำกัดของ Bundling และ Unbundling
การเลือกทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ Bundling และ Unbundling จะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของธุรกิจและเป้าหมายทางการตลาดของธุรกิจ ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีตัวอย่างที่น่าสนใจ ดังนี้
Bundling
ตัวอย่างแบรนด์
- McDonald’s ชุด Value Meals ที่รวมแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และเครื่องดื่มเป็นชุดเดียว
- Microsoft 365 แพ็กเกจโปรแกรมสำนักงานที่รวม Word, Excel, PowerPoint และ Outlook
- AIS Fibre แพ็กเกจที่มี Bundle Pricing อินเทอร์เน็ตพ่วงกับบริการทีวีดาวเทียม
ข้อดี
- ช่วยเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยเพราะลูกค้าได้สินค้าหรือบริการหลายรายการในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม
- สร้างความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องเลือกซื้อหลายครั้ง ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
- ลดต้นทุนการตลาดและโลจิสติกส์เพราะสามารถโปรโมตและจัดส่งได้แบบเป็นชุดเดียว
ข้อจำกัด
- หากลูกค้าไม่ต้องการสินค้า หรือบริการทุกชิ้นในแพ็กเกจ อาจรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าและไม่ตัดสินใจซื้อ
- ลดความยืดหยุ่นในการตั้งราคาแยก ทำให้การจัดโปรโมชันเฉพาะสินค้า หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำได้ยากขึ้น
- สินค้าหรือบริการที่โดดเด่น อาจถูกมองข้ามได้ง่าย ๆ เมื่อถูกวางรวมกับสินค้าที่ขายไม่ดี
Unbundling
ตัวอย่างแบรนด์
- สายการบิน ที่แยกค่าตั๋วเครื่องบินออกจากค่าบริการเสริม เช่น น้ำหนักกระเป๋า และการเลือกที่นั่ง
- TrueVisions เปิดให้ลูกค้าเลือกสมัครแพ็กเกจตามช่องหรือหมวดหมู่ที่สนใจ
- Spotify แยกบริการฟังเพลงออกจากบริการ Podcast ให้เลือกสมัครได้
ข้อดี
- ลูกค้าสามารถจ่ายเฉพาะสิ่งที่ต้องการจริง ๆ ได้ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจ
- ธุรกิจปรับเปลี่ยนราคาหรือโปรโมชันของแต่ละบริการได้อย่างอิสระ
- สามารถมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการหลักได้อย่างเต็มที่
ข้อจำกัด
- การจัดการ SKU และโปรโมชันซับซ้อนขึ้น ต้องดูแลรายการสินค้าหรือบริการจำนวนมาก
- การแบ่งบรรจุภัณฑ์หรือการจัดการสต็อกสำหรับขายแยกชิ้น อาจเพิ่มต้นทุนการผลิตหรือบรรจุภัณฑ์
- ลูกค้าอาจรู้สึกว่าการซื้อแยกรายการมีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับแพ็กเกจรวม
Bundling มีกี่ประเภท
การทำ Bundling คือการรวมกลุ่มสินค้าเป็นการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นยอดซื้อและเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลักที่ได้รับความนิยม ดังนี้
1. Pure bundling
Pure bundling เป็นกลยุทธ์ที่นำสินค้าหลายชิ้นมาขายรวมกันเป็นแพ็กเกจเท่านั้น ไม่ขายแยกชิ้น ทำให้ลูกค้าต้องซื้อครบชุดหากต้องการสินค้าใดสินค้าหนึ่ง เหมาะกับการสร้างความรู้สึกคุ้มค่าเฉพาะดีลพิเศษ และกระตุ้นให้ลูกค้าต้องซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้น
2. Mixed bundling
Mixed bundling ผสมผสานระหว่างการเสนอแพ็กเกจกับการขายแยกชิ้นไปพร้อมกัน ลูกค้าจึงมีทางเลือกว่าจะซื้อทั้งแพ็กหรือซื้อเป็นชิ้นเดี่ยวได้ เพิ่มความยืดหยุ่นและตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่มได้มากกว่า
3. Price bundling
Price bundling คือ การตั้งราคาแพ็กเกจให้ถูกกว่าการซื้อสินค้าแต่ละชิ้นรวมกัน โดยมุ่งเน้นการเรียกลูกค้าด้วยข้อเสนอราคาที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มยอดขายและปรับสมดุลสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. Cross-sell bundling
Cross-sell bundling ใช้เทคนิคแนะนำสินค้าคู่เมื่อมีการซื้อสินค้าหลัก เช่น การขายสมาร์ตโฟนพร้อมเคส หรือฟิล์มกันรอย เพื่อเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อและกระตุ้นให้ลูกค้าลองสินค้าอื่น ๆ ได้ในโอกาสการขายครั้งเดียว
5. Upsell bundling
Upsell bundling เป็นการจัดแพ็กเกจโดยจับสินค้ารุ่นพรีเมียมหรือเวอร์ชันอัปเกรดกับสินค้าปกติ เพื่อจูงใจลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อรับประโยชน์มากขึ้น
ในปัจจุบัน กลยุทธ์ Bundle Pricing คือการตั้งราคาแบบแพ็กเกจ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจหลากหลายประเภท โดยเฉพาะในธุรกิจ E-Commerce เพราะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งตัวอย่างธุรกิจที่น่าสนใจ มีดังต่อไปนี้
- Related Products Bundle: Escalade Sports จัดชุดอุปกรณ์กีฬา Pickleball ครบเซ็ต ทั้งตาข่าย ไม้ตี ลูก และกระเป๋าพกพา ช่วยให้ลูกค้าพร้อมเล่นทันทีหรือเลือกซื้อแต่ละชิ้นได้ตามต้องการ
- Gift Bundles: LVLY จัดชุดกระเช้าดอกไม้พร้อมช็อกโกแลตและเครื่องดื่ม สำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น วันเกิดหรือครบรอบ เพื่อทำให้การเลือกของขวัญเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่า
- Subscription boxes: WineCollective คัดสรรไวน์ส่งให้สมาชิกทุกเดือน เปลี่ยนจากความยุ่งยากในเลือกไวน์เป็นความสะดวกสบายและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
- Buy-one-get-one bundles: HiSmile นำเสนอแพ็กเกจรวมยาสีฟันหลายรสชาติ กระตุ้นให้ลูกค้าได้ทดลองรสใหม่ ๆ และเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อต่อครั้ง
- Inventory clearance bundling: ร้านเสื้อผ้าแฟชันนำสินค้าค้างสต๊อก เช่น รองเท้าแตะ และแว่นกันแดด มาจัดเซ็ตรวมกับชุดยอดนิยมในราคาพิเศษ เพื่อเร่งระบายสต็อกและดึงดูดลูกค้าด้วยดีลสุดคุ้ม
Bundling คือ กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายที่ธุรกิจควรรู้และเลือกใช้
Bundling คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นยอดขายและเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อ โดยการรวมสินค้าหรือบริการหลายรายการเป็นแพ็กเกจเดียวในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Pure bundling, Mixed bundling, Price bundling, Cross-sell bundling และ Upsell bundling ซึ่งแต่ละประเภทช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองได้
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการยกระดับประสบการณ์รับชำระเงินและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย KGP ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ที่มาพร้อมบริการครบวงจร ที่ช่วยให้ธุรกิจรับชำระเงินจากลูกค้าได้ง่าย สะดวกและปลอดภัย ผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Meta Pay, ลิงก์รับชำระเงิน (Payment Links+), QR Payment, Mobile Banking, บัตรเครดิต/เดบิต, Truemoney Wallet, บริการหักบัญชีอัตโนมัติ (ODD) ไปจนถึงบริการสรุปยอดและกระจายเงินไปยังบัญชีร้านค้ารายย่อย (Settlement & Payouts) ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเปลี่ยนทุกความสนใจของลูกค้าให้กลายเป็นการยอดขาย พร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด
KGP, Payment. Make It Smooth.
Related News/Articles
Follow Us