Marketplace คืออะไร รู้จักอีกช่องทางขายของออนไลน์ยอดนิยมMarketplace คืออะไร รู้จักอีกช่องทางขายของออนไลน์ยอดนิยม
Article

Marketplace คืออะไร รู้จักอีกช่องทางขายของออนไลน์ยอดนิยม

15 Aug 25

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างร้านค้าและลูกค้า ช่วยเปิดโอกาสให้ร้านค้าสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในปัจจุบันมีช่องทางให้เจ้าของธุรกิจได้นำสินค้าและบริการของตนเองไปนำเสนออยู่หลากหลาย ซึ่ง Marketplace คืออีกช่องทางที่กำลังมาแรงและตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการเลือกสินค้าจากหลาย ๆ เจ้าในที่เดียวบนช่องทางออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ Marketplace จึงกลายเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการเปิดโอกาสให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ


สารบัญบทความ


Marketplace คืออะไร? ช่องทางขายของออนไลน์ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้จัก

Marketplace (มาร์เก็ตเพลส) คือช่องทางที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงร้านค้าและลูกค้าให้มาเจอกัน โดย Marketplace จะเป็นแหล่งที่รวบรวมสินค้าและบริการจากร้านค้าต่าง ๆ เอาไว้ในที่เดียว ลูกค้าจึงสามารถค้นหา เปรียบเทียบและเลือกซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ขายก็มีโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากกว่าการขายบนพื้นที่เล็ก ๆ ของตนเองเพียงอย่างเดียว

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ Marketplace ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 

  • Offline Marketplace หรือตลาดออฟไลน์ เป็นสถานที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบปะกันโดยตรง เช่น ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า
  • Online Marketplace หรือตลาดออนไลน์ ทำหน้าที่เสมือนห้างสรรพสินค้าหรือตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายมารวมตัวกันบนช่องทางออนไลน์ โดยที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านจริง และผู้ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเลือกซื้อสินค้า

แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดปัจจุบันมากขึ้น ด้วยข้อดีหลายอย่าง ทำให้ Online Marketplace คืออีกช่องทางที่สามารถพาให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นอีกเครื่องมือที่คนทำธุรกิจไม่ควรมองข้าม 


Marketplace VS. E-Commerce ต่างกันอย่างไร

Marketplace กับ E-Commerce

ทั้ง Marketplace และ E-Commerce ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ แต่ทั้งสองมีข้อแตกต่างกันที่ชัดเจน ดังนี้

  • Marketplace คือแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้ในที่เดียว โดยที่ Marketplace จะไม่ได้ถูกควบคุมโดยแบรนด์สินค้าใด ๆ และร้านค้าที่เข้ามาขายสินค้าบน Marketplace จะต้องปฏิบัติตามนโนบายของแพลตฟอร์มนั้น ๆ
  • E-Commerce คือช่องทางขายของออนไลน์ที่ดำเนินการโดยแบรนด์หรือร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นร้านค้าเดี่ยวที่มีอิสระในการขายสินค้าและบริการของตนเอง แต่ร้านค้าจะต้องมีระบบการจัดการหลังบ้าน การสร้างความน่าเชื่อถือ และการทำการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงธุรกิจของคุณได้มากขึ้น 

การเลือกช่องทางทำธุรกิจขึ้นอยู่กับการวางแผนและเป้าหมายของธุรกิจ หากเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือการซื้อขายแบบ C2C (Consumer to Consumer) การขายบน Marketplace คือช่องทางที่ตอบโจทย์มากกว่า แต่หากต้องการสร้างแบรนด์ที่มั่นคง มีภาพลักษณ์ชัดเจน E-Commerce ส่วนตัว อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ สร้างรายได้ให้มากขึ้น และเติบโตในระยะยาวก็สามารถใช้ทั้ง Marketplace และ E-Commerce ควบคู่กันไปได้ 


ข้อดีของ Marketplace มีอะไรบ้าง

Marketplace เป็นอีกช่องทางขายของออนไลน์ที่มีข้อดีอยู่มากมายสำหรับธุรกิจ ดังนี้ 

  • การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก คล้ายกับห้างสรรพสินค้าที่สามารถดึงดูดให้นักชอปจำนวนมากเข้ามารับชมและเลือกซื้อสินค้าได้ Marketplace หลาย ๆ แพลตฟอร์มเองก็มีฐานลูกค้าจำนวนมากที่พร้อมเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่อยู่ภายในแพลตฟอร์มนั้น ๆ
  • เพิ่มโอกาสการโฆษณาและการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย Marketplace หลาย ๆ แพลตฟอร์มมักมีการจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งการขายสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มเหล่านี้อาจทำให้สินค้าและบริการของธุรกิจคุณได้รับผลประโยชน์จากแคมเปญเหล่านั้น
  • เป็นช่องทางการขายสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ การขายสินค้าบน Marketplace มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน E-Commerce หรือการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในตลาดหรือห้างสรรพสินค้า แต่สามารถเพิ่มการมองเห็นได้มากกว่าด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มหาศาล
  • สามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อการวางแผนธุรกิจได้สะดวก Marketplace หลาย ๆ แพลตฟอร์มมีเครื่องมือวิเคราะห์สำหรับร้านค้า ทำให้ผู้ขายสามารถเห็นข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย พฤติกรรมผู้ซื้อ หรือการมีส่วนร่วมบนหน้าร้านค้าหรือสินค้า ซึ่งช่วยให้ธุรกิจนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดได้อย่างง่ายดาย
  • การใช้งานที่สะดวก ลดภาระหลังบ้าน ระบบของ Marketplace ส่วนใหญ่จะใช้งานง่ายสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพียงแค่นำข้อมูลสินค้าและบริการมาลงในระบบก็สามารถเริ่มขายได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคหรือสร้างเว็บไซต์เอง นอกจากนี้ Marketplace ยังช่วยลดงานหลังบ้านได้ เช่น ระบบชำระเงินออนไลน์ที่รองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แม้แต่การซื้อขายผ่านแชตบน Facebook Marketplace ก็สามารถใช้บริการรับชำระเงินผ่าน Meta Pay หรือ Payment Link โดยบริการ KGP Payment Links+ เป็นช่องทางรับชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถปรับแต่ลิงก์ชำระเงินให้เข้ากับภาพลักษณะของแบรนด์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าในสายตาลูกค้าได้อีกด้วย

ข้อจำกัดของ Marketplace

ถึงแม้ว่า Marketplace จะเป็นช่องทางขายของออนไลน์ที่มาแรง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา ได้แก่

  • การแข่งขันสูง เพราะใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาเริ่มต้นธุรกิจบน Marketplace ได้ ทำให้มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก
  • ความยืดหยุ่นน้อย เพื่อให้การซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Marketplace เป็นไปตามกฎระเบียบและข้อบังคับ ทำให้ร้านค้าจำเป็นต้องมีระบบการจัดการที่ดี ทั้งการสต๊อกสินค้า หรือการจัดส่งตามกำหนดเวลา
  • มีโอกาสเกิดการ Refund สูง เนื่องจากหลายแพลตฟอร์มสามารถขอคืนสินค้าได้อย่างสะดวก ทำให้ร้านค้ามีโอกาสเจอการขอเงินคืนได้สูงกว่าการซื้อขายบน E-Commerce ของตนเอง
  • มีค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชัน แม้ว่าการขายสินค้าบน Marketplace จะมีต้นทุนต่ำ หรือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงขาย แต่ก็มักจะมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชันจากการขาย ที่อาจส่งผลให้กำไรลดลงได้
  • การเข้าถึงข้อมูลการขายที่จำกัด การซื้อขายบน Marketplace หลาย ๆ แพลตฟอร์มอาจให้ข้อมูลลูกค้าและการซื้อขายที่จำกัด นอกจากนี้ ข้อมูลการค้ายังเป็นของ Marketplace ซึ่งมีโอกาสที่ Marketplace จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้สร้างธุรกิจขึ้นมาแข่งขันกับธุรกิจของคุณได้

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนขายของบน Marketplace คืออะไร

ข้อควรรู้ของ Marketplace

ก่อนตัดสินใจขายสินค้าและบริการบน Marketplace มีสิ่งที่ผู้ขายจำเป็นจะต้องเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ เนื่องจากอาจมีผลต่อการขายสินค้าและบริการบน Marketplace ในระยะยาว

กฎของแพลตฟอร์ม Marketplace

Marketplace แต่ละแพลตฟอร์มมีกฎระเบียบ นโยบาย และข้อบังคับที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจบน Marketplace ควรจะต้องทราบถึงข้อจำกัดของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ว่าธุรกิจของเราเหมาะสมหรือไม่ เพราะหากร้านค้าไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของแพลตฟอร์ม อาจต้องเจอกับบทลงโทษที่อาจกระทบต่อยอดขายและความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้

ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดและโฆษณา

แม้ว่าการเปิดร้านบน Marketplace อาจไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น จะต้องมีการซื้อโฆษณาหรือเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ที่ทางแพลตฟอร์มจัดขึ้นเพื่อเปิดการมองเห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้เจ้าของธุรกิจควรจะต้องทำความเข้าใจและวางแผนในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการตลาดและโฆษณาอย่างรอบคอบ

การควบคุมแบรนด์ หรือลดการมองเห็น

สำหรับแบรนด์ที่มี CI (Corporate Identity) หรืออัตลักษณ์แบรนด์ที่ชัดเจน การใช้ Marketplace อาจมีข้อจำกัดในการออกแบบหน้าร้าน ทำให้แบรนด์ของคุณไม่สามารถแสดงอัตลักษณ์ที่ชัดเจน และไม่โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังสามารถลดการมองเห็นหน้าร้านของคุณ หากร้านค้าไม่ให้ความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม หรือได้รับคะแนนจากผู้ซื้อต่ำ ซึ่งส่งผลต่อยอดขายได้โดยตรง


ตัวอย่าง Marketplaces ยอดนิยมในไทย

แพลตฟอร์ม marketplaces

การขายสินค้าและบริการบน Marketplaces ในประเทศไทยก็มีหลากหลายแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูง ยกตัวอย่างเช่น 

  • Facebook Marketplace เป็นช่องทางขายสินค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดียที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากจากผู้ใช้งาน Facebook ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในไทยและระดับโลก การขายสินค้าบน Facebook Marketplace ช่วยให้สินค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มาก และไม่จำเป็นต้องสร้างร้านค้า เพียงแค่มีบัญชี Facebook ก็สามารถลงขายสินค้าได้ทันที 
  • Shopee นับเป็นตลาด Marketplace ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีจุดเด่นด้านการตลาดที่แข็งแกร่ง มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอยู่บ่อยครั้ง และใช้งานง่ายสำหรับทั้งร้านค้าและลูกค้า ทำให้ Shopee เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ธุรกิจทุกขนาดไม่ควรพลาด 
  • Lazada อีกหนึ่ง Marketplace คู่แข่งคนสำคัญของ Shopee ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และร้านค้าจำนวนมาก จุดเด่นคือระบบหลังบ้านและเครือข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแรง ในปัจจุบัน Lazada ก็มีแคมเปญส่งเสริมการขายที่ช่วยเปิดโอกาสให้ร้านค้าสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน 
  • TikTok Shop ตลาด Marketplace น้องใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาศัยจุดเด่นของวิดีโอคอนเทนต์และการไลฟ์ขายสินค้า ซึ่งสามารถสร้างแรงจูงใจในการซื้อได้สูง และยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด

เทคนิคการขายของบน Marketplace มีอะไรบ้าง

เพื่อเพิ่มยอดขายและประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์ม Marketplace สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ 

  • เลือกขายสินค้าที่มีความต้องการสูง ยิ่งสินค้าเป็นที่ต้องการมากเท่าไหร่ โอกาสในการขายสำเร็จก็ยิ่งสูงขึ้น
  • มีคู่แข่งน้อย หากสินค้าที่ขายจะเป็นที่ต้องการแล้ว หากสินค้านั้นยังมีคู่แข่งน้อยด้วย ยิ่งเป็นโอกาสดีที่ธุรกิจจะสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
  • ภาพสินค้าสวยโดดเด่น เพราะการขายบน Marketplace ยังมีข้อจำกัดที่ลูกค้าไม่สามารถสัมผัสสินค้าจริงได้ การถ่ายรูปสินค้าให้สวยและโดดเด่นจะช่วยดึงดูดความสนใจและเพิ่มโอกาสในการขาย
  • รายละเอียดสินค้าครบ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและช่วยปิดการขายได้เร็ว การแสดงรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วนตั้งแต่แรกจึงมีความสำคัญ นอกจากนี้ ควรใส่ชื่อสินค้าและคำที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในช่องรายละเอียดสินค้าเพื่อให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น
  • การตอบแชตที่รวดเร็ว การให้บริการที่รวดเร็วและเป็นมิตรจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า สามารถปิดยอดขายได้มากขึ้น และมีโอกาสที่จะเกิดการซื้อขายซ้ำอีกด้วย 
  • โปรโมชันที่น่าดึงดูด หากบน Marketplace มีสินค้าแบบเดียวกับธุรกิจของคุณ สิ่งที่เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเลือกสินค้าของคุณคือการมีโปรโมชันที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด Flash sale ในช่วงเวลาจำกัด หรือระบบสะสมแต้ม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าและปิดการขายได้มากขึ้น

Marketplace คืออีกช่องทางสร้างรายได้ที่นักธุรกิจไม่ควรพลาด 

Marketplace คือช่องทางขายสินค้าที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพบกันได้ง่ายขึ้นผ่านตัวกลางอย่างแพลตฟอร์ม Marketplace ต่าง ๆ ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก การทำธุรกิจบน Marketplace จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นและตัดสินใจซื้อสินค้าได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การขายบน Marketplace มีการแข่งขันสูง การที่จะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้จึงต้องอาศัยเทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสม ทั้งการเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบและเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดออนไลน์ 

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้การโอนเงินบน Facebook Messenger มีความปลอดภัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น KGP ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ที่ช่วยให้การซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Facebook มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น Meta Pay ที่สามารถรับการชำระเงินได้หลายรูปแบบทั้ง QR Payment บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือโมบายแบงก์กิ้ง นอกจากนี้ ยังมีบริการรับเงินโอนผ่าน Facebook Messenger อย่าง P2P Transfer ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ เพียงแค่ผู้รับโอนส่งเลขที่บัญชีธนาคารผ่านแชต ระบบก็จะสร้างปุ่มโอนเงินให้อัตโนมัติ เมื่อผู้โอนกดปุ่มและทำรายการสำเร็จ สลิปจะถูกส่งไปยังแชต Facebook Messenger อัตโนมัติ ช่วยทำให้การรับเงินบน Facebook ง่ายและปลอดภัยกว่าที่เคย

KGP, Payment. Make It Smooth.

FB : kgpthailand

LinkedIn : Kasikorn Global Payment

www.kasikornglobalpayment.com

Related News/Articles

Follow Us