Cross-Border Payment คืออะไร? การชำระเงินที่ไร้พรมแดนCross-Border Payment คืออะไร? การชำระเงินที่ไร้พรมแดน
บทความ

Cross-Border Payment คืออะไร? การชำระเงินที่ไร้พรมแดน

15 ส.ค. 68

Cross-Border Payment คือ บริการชำระเงินที่ช่วยให้ธุรกิจรองรับการโอน จ่าย หรือทำธุรกรรมได้ในต่างประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

Cross-Border Payment คือ ระบบที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการจ่ายเงิน การโอนเงิน และการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์ที่กำลังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของธุรกิจในปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จัก Cross-Border Payment ในทุกมิติ ตั้งแต่ความสำคัญต่าง ๆ และการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอป ที่จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน 


สารบัญบทความ


Cross-Border Payment คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไรบ้าง?

Cross-Border Payment คือ กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินจากบุคคล หรือองค์กรในประเทศหนึ่งไปยังบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิมอย่าง ระบบ Swift หรือ Correspondent Banking เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมธุรกรรมทางการเงินสมัยใหม่ Fintech เช่น การชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และบล็อกเชนอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว Cross-Border Payment ต้องผ่านขั้นตอนสำคัญหลายอย่าง ทั้งกระบวนการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน (Foreign Exchange: FX) การตรวจสอบข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและการป้องกันการฟอกเงิน (AML/KYC) รวมถึงการจัดการค่าธรรมเนียมและเวลาที่ใช้ในการโอนเงิน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและผู้ให้บริการแต่ละราย ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างความท้าทายในด้านความล่าช้า ความไม่โปร่งใสด้านอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียม และข้อจำกัดทางกฎหมายในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เช่น โซลูชันบล็อกเชนและการใช้ API เพื่อเชื่อมต่อระบบการเงิน ก็ช่วยให้กระบวนการชำระเงินข้ามพรมแดนมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพในระบบชำระเงินออนไลน์ได้อย่างแท้จริง 


Cross-Border Payment ใช้ในประเทศไหนได้บ้าง

Cross-Border Payment ใช้ประเทศไหน

ปัจจุบัน Cross-Border Payment คือ การชำระเงินข้ามพรมแดน ที่ได้ขยายเครือข่ายครอบคลุมหลายประเทศทั่วเอเชีย เพื่อให้ธุรกิจสามารถรองรับการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอป ซึ่งหลัก ๆ จะสามารถใช้ได้ในประเทศ ดังนี้ 

  • กัมพูชา: ACLEDA BANK, CP BANK, BIC BANK, LOLC (CAMBODIA), PHILLIP BANK, ABA 
  • ฮ่องกง: BANK OF CHINA (HONG KONG), BANK OF COMMUNICATIONS (HONG KONG), BANK OF EAST ASIA, CITIBANK (HONG KONG), FUBON BANK (HONG KONG), HANG SENG BANK, HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION, OCTOPUS CARDS, TAP&GO และ HKT PAYMENT 
  • อินโดนีเซีย: BANK CENTRAL ASIA, BANK SYARIAH INDONESIA, ESPAY DEBIT INDONESIA KOE, CIMB NIAGA, BANK SINARMAS, BANK MEGA, BANK PEMATA และ BANK PEMBANGUNAN DAERAH 
  • มาเลเซีย: PUBLIC BANK 
  • สิงคโปร์: DBS และ OCBC 
  • เกาหลีใต้: GLN (HANA BANK, KB KOOKMIN BANK, TOSS BANK และ DAEGU BANK) 
  • ไต้หวัน: GLN (TAISHIN BANK) 
  • เวียดนาม: TP BANK และ SACOMBANK 

เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับ Cross-Border Payment เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจควรทำศึกษารายละเอียด และปฏิบัติตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย 


ขั้นตอนการใช้งาน Cross-Border Payment มีอะไรบ้าง

การใช้งานระบบ Cross-Border QR Payment คือ ทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้กับธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะการชำระผ่าน QR Code ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายในไทยได้อย่างสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชันของตนเอง สำหรับธุรกิจที่สนใจนำมาใช้สามารถทำได้ง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้ 

1. ประชาสัมพันธ์โดยแสดงสัญลักษณ์ Thai QR Payment ที่ร้านค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทราบว่าร้านของคุณรองรับการชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-Border QR Payment) 
2. ร้านค้าแสดง QR Code ของระบบ Thai QR Payment ให้นักท่องเที่ยวสแกนผ่านแอป Mobile Banking หรือแอปพลิเคชันของตนเอง 
3. นักท่องเที่ยวใช้แอป Mobile Banking สแกน QR Code และยืนยันจำนวนเงิน จากนั้นระบบจะแสดงยอดเงินบาท พร้อมอัตราแลกเปลี่ยน และยอดเงินสกุลต่างประเทศ เมื่อชำระสำเร็จ จะได้รับ e-Slip เป็นหลักฐาน 
4. ร้านค้าจะได้รับการแจ้งเตือน (Notification) เมื่อการชำระเงินสำเร็จ หากร้านค้าไม่ได้รับการแจ้งเตือน ห้ามส่งมอบสินค้าหรือบริการ และควรแจ้งลูกค้าให้ตรวจสอบสถานะกับธนาคารของตนเองก่อนดำเนินการต่อ 


Cross-Border Payment ใช้สำหรับอะไรได้บ้าง

Cross-Border Payment คือ ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายความต้องการในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอป การลงทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้ 

การค้า-ขายระหว่างประเทศ

Cross-Border Payment ช่วยให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าและบริการระหว่างประเทศต่าง ๆ ดำเนินการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ทั้งการจ่ายค่าสินค้าจากซัพพลายเออร์ต่างชาติและรับชำระจากลูกค้าในต่างประเทศ แม้มูลค่าการทำธุรกรรมจะสูงหรือมีหลายสกุลเงิน

การโอนเงิน

อำนวยความสะดวกให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจในการโอนเงินระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินกลับบ้าน จ่ายค่าเล่าเรียนในต่างประเทศ หรือตรวจสอบยอดค่าจ้างคนทำงานต่างชาติ ผ่านแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและรวดเร็ว โดยไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก

การลงทุน

เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อ-ขายสินทรัพย์ในต่างประเทศ เช่น หุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ พร้อมรับเงินปันผลหรือรายได้จากการลงทุนกลับมายังบัญชีในประเทศได้ ลดขั้นตอนและความล่าช้าจากระบบธนาคารดั้งเดิม

การท่องเที่ยวและการเดินทาง

เพิ่มความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวในการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หรือทริปท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแลกเงินสดล่วงหน้า ลดความเสี่ยงจากธนบัตรปลอม และสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้แบบเรียลไทม์

การบริจาค

อำนวยความสะดวกให้บุคคลและองค์กรทำการบริจาคให้กับมูลนิธิ หรือโครงการการกุศลในต่างประเทศได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแลกเงินซับซ้อน และมอบความโปร่งใสในการติดตามยอดบริจาค


Cross-Border Payment มีข้อดี-ข้อจำกัดอย่างไร

ข้อดี-ข้อเสียของ Cross-Border Payment

Cross-Border Payment คือ กระบวนการโอนเงินข้ามพรมแดนที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในเชิงธุรกิจและบุคคลทั่วไป แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ธุรกิจควรพิจารณาด้วยเช่นกัน 

ข้อดี

  • ความสะดวก สามารถชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องแลกเงินสด ร้านค้าได้รับเงินเต็มจำนวน ลดความยุ่งยากเรื่องเงินทอน 
  • ความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการรับธนบัตรปลอม และลดการสัมผัสเงินสดโดยตรง
  • ลดภาระค่าธรรมเนียม สำหรับผู้ใช้งานปลายทาง (นักท่องเที่ยว) มักไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำรายการ ซึ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ 

ข้อจำกัด

  • ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ การใช้ Cross-Border QR Payment ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ AML/KYC และข้อบังคับเฉพาะของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจยุ่งยากและใช้เวลาในการปฏิบัติตาม 
  • ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน มูลค่าของสกุลเงินต้นทางและปลายทางอาจเปลี่ยนแปลงในระหว่างขั้นตอนการโอน ซึ่งส่งผลต่อจำนวนเงินที่ผู้รับจะได้รับจริง 
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย แม้การใช้จ่ายบางช่องทางผู้ซื้ออาจไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ผู้ให้บริการระบบอาจมีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน หรือค่าดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามช่องทาง และภูมิภาคที่ร้านค้าต้องพิจารณา
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการฉ้อโกง ธุรกรรมระหว่างประเทศอาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ การขโมยข้อมูล หรือการสวมรอยทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ความซับซ้อนในการจัดการ กระบวนการ Cross-Border Payment อาจซับซ้อนกว่าการโอนภายในประเทศ เนื่องจากต้องใช้ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และระบบติดตามที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนสำเร็จ

สรุป Cross-Border Payment คืออะไร ทำไมถึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจควรรู้

หลังจากที่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกันแล้วว่า Cross-Border Payment คืออะไร และการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอป หรือสิ่งอื่น ๆ ที่ทำได้ผ่านระบบนี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ก็น่าจะช่วยให้หลายคนสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบ Cross-Border QR Payment อย่างละเอียดและถูกต้อง

ปัจจุบัน ธุรกิจในไทยสามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาใช้จ่ายในประเทศไทยได้อย่างง่ายดายด้วยการสแกน Thai QR Code เช่น บริการรับชำระเงินออนไลน์จากทาง KGP สามารถรับชำระเงินผ่านแอปยอดนิยมจากต่างประเทศ เช่น WeChat Pay, Alipay, Kakao Pay และ Touch ’n Go เป็นต้น 

KGP, Payment. Make It Smooth.

FB : kgpthailand

LinkedIn : Kasikorn Global Payment

www.kasikornglobalpayment.com


อ้างอิง

1. Cross-Border Payment. ธนาคารแห่งประเทศไทย. https://www.bot.or.th/th/financial-innovation/digital-finance/digital-payment/cross-border-payment.html#accordion-60403f9376-item-47156e1136

ข่าวสารและกิจกรรมอื่น ๆ

ติดตาม KGP ผ่านโซเชียลมีเดีย