

จดทะเบียนบริษัทคืออะไร? มีกี่ขั้นตอน? เตรียมเอกสารอะไรบ้าง
จดทะเบียนบริษัทคืออะไร คู่มือเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่ เรียนรู้กระบวนการที่ทำให้ธุรกิจมีสถานะนิติบุคคล เพิ่มความน่าเชื่อถือ เข้าถึงเงินทุน และสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน
การตัดสินใจจดทะเบียนบริษัทเป็นก้าวสำคัญของผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องการยกระดับธุรกิจไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ ขยายกิจการ และเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ การจดทะเบียนบริษัทจึงไม่ได้เป็นเพียงการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่คือการวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตในระยะยาว การทำความเข้าใจถึงความสำคัญและกระบวนการจดทะเบียนบริษัทจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจนจะช่วยให้บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่คู่ค้า นักลงทุนและลูกค้าอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนเจาะลึกทุกแง่มุมของการจดทะเบียนบริษัท ตั้งแต่ความหมาย ประเภท ไปจนถึงขั้นตอนสำคัญต่าง ๆ รวมถึงช่องทางการจดทะเบียนบริษัทที่สะดวก เพื่อให้สามารถเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและเป็นมืออาชีพ
สารบัญบทความ
- การจดทะเบียนบริษัท คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อธุรกิจ
- การจดทะเบียนบริษัท มีกี่ประเภท
- 9 ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท เส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ
- จดทะเบียนบริษัทได้ช่องทางไหนบ้าง
- การจดทะเบียนบริษัท ก้าวแรกสู่ความมั่นคงทางธุรกิจ
การจดทะเบียนบริษัท คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อธุรกิจ
การจดทะเบียนบริษัท คือ กระบวนการทางกฎหมายเพื่อจัดตั้ง้ธุรกิจให้มีสถานะเป็น "นิติบุคคล" ซึ่งแยกต่างหากจากเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นโดยสมบูรณ์ การจดทะเบียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความชอบธรรมและรับรองการมีอยู่ของธุรกิจตามกฎหมาย ทำให้ธุรกิจนั้นสามารถทำนิติกรรมต่าง ๆ ได้ในนามของบริษัท เช่น ทำสัญญา เปิดบัญชีธนาคาร ขอสินเชื่อ หรือถือครองทรัพย์สินได้ในนามของบริษัทเอง
การเปิดบริษัทในรูปแบบนิติบุคคลสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือเจ้าของธุรกิจ SME การจดทะเบียนบริษัทจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ เพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังช่วยจำกัดความรับผิด (Limited Liability) ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจมีหนี้สิน ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบเฉพาะเงินลงทุนของตนเอง ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวได้รับการคุ้มครอง นับเป็นหลักสำคัญของการบริหารความเสี่ยงสำหรับธุรกิจทุกขนาด
การจดทะเบียนบริษัท มีกี่ประเภท
การจดทะเบียนบริษัทนั้นมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป โดยหลัก ๆ แล้ว การจดทะเบียนบริษัทสามารถแบ่งออก้เป็น 2 ประเภทสำคัญ ได้แก่
1. ประเภททะเบียนพาณิชย์หรือบุคคลธรรมดา
การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ "บุคคลธรรมดา" เป็นรูปแบบการจดทะเบียนธุรกิจที่ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย หรือธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ผู้ที่ี่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ร้านค้า หรือร้านอาหาร
ลักษณะเด่นของการจดทะเบียนบริษัทรูปแบบนี้ คือธุรกิจไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล มีตัวเจ้าของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทั้งในด้านกฎหมายและการเงิน ขั้นตอนการจดทะเบียนไม่ซับซ้อน ใช้เอกสารน้อยค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนที่ถูกกว่าการจดทะเบียนนิติบุคคล และเจ้าของมีอำนาจในการตัดสินใจได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการประชุมหรืออนุมัติจากผู้ถือหุ้น และภาษีจะคำนวณตามรายได้สุทธิ ทำให้เสียภาษีในอัตราก้าวหน้า ในกรณีรายได้ไม่สูงมาก อาจเสียภาษีน้อยกว่ารูปแบบอื่น
2. ประเภททะเบียนนิติบุคคล
การจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง หรือมีผู้ร่วมลงทุนหลายราย แม้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่ารูปแบบบุคคลธรรมดา แต่ข้อดีคือความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น และสามารถจำกัดความรับผิดของผู้ร่วมลงทุนได้ การจดทะเบียนบริษัทสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกหลายประเภทธุรกิจ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามัญ, ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด
ธุรกิจจะถูกจัดตั้งขึ้นเป็น "นิติบุคคล" แยกต่างหากจากตัวบุคคลเจ้าของกิจการ มีกฎหมายรองรับและสามารถทำนิติกรรมในนามของตนเองได้ ข้อดีคือผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนจะรับผิดชอบหนี้สินของบริษัทไม่เกินจำนวนเงินที่ตนเองลงทุนไว้ ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวได้รับการคุ้มครอง
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.)คือ ก่อตั้งโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยหุ้นส่วนทุกคนมีความรับผิดชอบต่อหนี้สินของกิจการแบบไม่จำกัด ทรัพย์สินส่วนตัวของหุ้นส่วนสามารถถูกนำมาใช้ชำระหนี้ได้
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) คือ ก่อตั้งโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ประกอบด้วยหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด (รับผิดชอบหนี้ทั้งหมด) และหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (รับผิดเฉพาะเงินลงทุน) เหมาะกับผู้ที่ต้องการร่วมลงทุนแต่ต้องการจำกัดความเสี่ยง
- บริษัทจำกัด (บจก.) คือ เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือสูงและสามารถเติบโตในระยะยาว สามารถก่อตั้งโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบต่อหนี้สินของบริษัทเท่ากับมูลค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการสร้างความมั่นคงและขยายกิจการอย่างยั่งยืน
9 ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท เส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ
การจดทะเบียนบริษัทนั้นมีขั้นตอนที่ละเอียดและซับซ้อน เราจึงรวบรวม 9 ขั้นตอนหลักในการจดทะเบียนบริษัทเพื่อเป็นแนวทางให้สามารถเตรียมตัวและดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ศึกษาข้อมูลในการจดทะเบียนบริษัท
ก่อนจะเริ่มต้นจดทะเบียนบริษัท สิ่งแรกที่ควรทำคือการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประเภทของธุรกิจที่ต้องการจดทะเบียน (เช่น บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด, บริษัทจำกัด) ข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ รวมถึงเอกสารที่จำเป็น การทำความเข้าใจโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะสมกับแผนการดำเนินงาน จะช่วยให้การเตรียมการในขั้นต่อไปเป็นไปอย่างราบรื่น
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
การเตรียมเอกสารเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการจดทะเบียนบริษัท โดยเอกสารที่ต้องเตรียมอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจที่เลือกจดทะเบียน ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้น และผู้สอบบัญชี
- แผนที่ตั้งสำนักงาน
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
3. ตั้งชื่อบริษัทสำหรับการจดทะเบียน
การจองชื่อบริษัทเป็นสิ่งสำคัญมากในการจดทะเบียนบริษัท โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจ E-Commerce เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น โดยชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นจะต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายคลึงกับชื่อบริษัทอื่นที่จดทะเบียนไปแล้ว และต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดีงาม
นอกจากนี้ การตรวจสอบชื่อสามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหลังจากได้ชื่อที่ต้องการและตรวจสอบว่าไม่ซ้ำแล้ว ก็สามารถยื่นเรื่องได้ทันที โดยชื่อที่จองไว้จะมีอายุ 30 วันนับจากวันที่นายทะเบียนรับจอง
4. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ พร้อมยื่นต่อนายทะเบียน
หนังสือบริคณห์สนธิเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงเจตนาในการก่อตั้งบริษัท ระบุข้อมูลสำคัญของบริษัท เช่น ชื่อบริษัท ที่ตั้งสำนักงาน วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียน และจำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือ หลังจากจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว จะต้องนำไปยื่นจดทะเบียนบริษัทต่อนายทะเบียนภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ได้รับการอนุมัติชื่อบริษัท
5. ประชุมผู้ถือหุ้น และเปิดจองซื้อหุ้น
เมื่อจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อจดทะเบียนบริษัทแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดการประชุมผู้เริ่มก่อการ เพื่อจัดตั้งบริษัท โดยในการประชุมนี้ จะมีการกำหนดจำนวนหุ้นที่จะเสนอขาย กำหนดมูลค่าหุ้น รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทเพื่อบริหารกิจการ ผู้ถือหุ้นจะต้องจองซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นตามสัดส่วนที่ตกลงไว้ อย่างน้อย 25% ของมูลค่าหุ้นที่จดทะเบียน
6. ประชุมผู้ที่ได้รับคัดเลือกในบริษัท
หลังจากที่ผู้ถือหุ้นได้จองซื้อหุ้นครบถ้วนแล้ว จะต้องมีการประชุมผู้ที่ได้รับคัดเลือกในบริษัท หรือที่เรียกว่า "ที่ประชุมจัดตั้งบริษัท" เพื่อพิจารณาข้อบังคับของบริษัท การแต่งตั้งกรรมการบริษัท การกำหนดอำนาจกรรมการ และการเลือกผู้สอบบัญชีของบริษัท เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการจดทะเบียนบริษัท
7. ตั้งคณะกรรมการบริษัท
ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทต่อมาคือที่ประชุมจัดตั้งบริษัทต้องทำการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท คณะกรรมการมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การแต่งตั้งกรรมการเป็นขั้นตอนสำคัญที่กำหนดทิศทางการบริหารของธุรกิจ
8. ชำระเงินค่าธรรมเนียม
ในทุกขั้นตอนของการจดทะเบียนบริษัท จะมีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทและขนาดของธุรกิจ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจรวมถึงค่าธรรมเนียมการจองชื่อ ค่าธรรมเนียมการยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ ค่าธรรมเนียมการจดบริษัท และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การเตรียมเงินและชำระค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งจำเป็น
9. รับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ครบถ้วนและนายทะเบียนพิจารณาอนุมัติแล้ว บริษัทจะได้รับใบจดทะเบียนบริษัท หรือใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัท และหนังสือจดทะเบียนบริษัท ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ยืนยันว่าธุรกิจได้จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคลอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย
จดทะเบียนบริษัทได้ช่องทางไหนบ้าง
ในปัจจุบัน การจดทะเบียนบริษัทมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกใหผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแบ่งช่องทางหลักๆ ได้ 3 รูปแบบดังนี้
- จดทะเบียนบริษัทผ่าน การใช้บริการบริษัทรับจดทะเบียนบริษัทหรือสำนักงานบัญชี เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีเวลาอย่างผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนและเอกสารทางกฎหมายที่ซับซ้อน สำนักงานบัญชีจะให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเตรียมเอกสาร การยื่นจดทะเบียนบริษัท ไปจนถึงบริการด้านบัญชีและภาษีหลังการจดทะเบียนเรียบร้อย การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการการจดทะเบียนบริษัทจะเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
- จดทะเบียนบริษัทผ่านระบบออนไลน์ (DBD e-Registration) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัดต้นทุน ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการจดบริษัทออนไลน์ผ่านระบบ DBD e-Registration ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ด้วยตนเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจองชื่อ การยื่นเอกสาร ไปจนถึงการชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงาน ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่ภาครัฐสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้การเริ่มต้นธุรกิจง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น
- จดทะเบียนบริษัทด้วยตนเองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นช่องทางดั้งเดิมที่ผู้ประกอบการสามารถไปติดต่อขอจดทะเบียนบริษัทได้โดยตรงที่สำนักงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในแต่ละพื้นที่ การจดทะเบียนบริษัทด้วยตนเองที่กรมฯ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูล หรือต้องการความคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว แต่ข้อจำกัดคืออาจต้องใช้เวลารอคิวนานและเสียเวลาในการเดินทาง
สรุปการจดทะเบียนบริษัท ก้าวแรกสู่ความมั่นคงทางธุรกิจ
การจดทะเบียนบริษัทถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องการยกระดับธุรกิจให้เติบโตอย่างมืออาชีพ การมีสถานะเป็นนิติบุคคลไม่เพียง่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาของคู่ค้าและลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อขยายกิจการและช่วยจำกัดความรับผิดชอบของเจ้าของธุรกิจ การทำความเข้าใจในทุกขั้นตอนของการจดทะเบียนบริษัท ตั้งแต่การเลือกประเภทธุรกิจ การจัดเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการเลือกช่องทางการจดทะเบียนบริษัทที่เหมาะสม จะช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจเป็นไปอย่างมั่นใจ มีประสิทธิภาพและสร้างความมั่นคงได้ในระยะยาว
KGP, Payment. Make It Smooth.
LinkedIn : Kasikorn Global Payment
อ้างอิง
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า. (ม.ป.ป.). คู่มือการใช้งานระบบจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนออนไลน์ e-Registration. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า. https://www.dbd.go.th/storage/manual/ae86c29a-bfa5-44b7-b14e-8918810c7eea.pdf
ข่าวสารและกิจกรรมอื่น ๆ
ติดตาม KGP ผ่านโซเชียลมีเดีย